วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Place de la Bastille น่าไปดู


Place de la Bastille แห่งนี้ซึ่งเป็นที่มาของวันชาติ ฝรั่งเศสวันที่ 14 กรกฎาคม เป็นที่มาของคำขวัญของประเทศฝรั่งเศส « Liberté Egalité Fraternité » « เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ » และเป็นที่มาของ คำประกาศสิทธิ มนุษยชน ด้วย
ในอดีต ตรง ลานแห่งนี้เป็นที่ตั้งของคุกบาสตีย์ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นที่คุมขังนักโทษฐาน หมิ่นพระบรมราชานุภาพและเป็นศัตรูของราชวงค์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักโทษที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น Voltaire ที่ถูกคุมขังเพราะเขียนบทกลอนล้อเลียนเจ้านายชั้นสูง นอกจากนั้นก็ยังมีนักโทษลึกลับ ทีไม่เปิด เผย ใบหน้า« มนุษย์หน้ากากเหล็ก » ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคู่แฝดของของพระเจ้าหลุยส์ที่14
วันที่ 14 กรกฎาคม ค. ศ 1789 ฝูงชนชาวปารีสได้ลุกขึ้นมาจับอาวุธและได้ยึดคุกบาสตีย์ซึ่งถือ เป็นสัญลักณ์ แห่ง อำนาจสูงสุดของ กษัติรย์ และในต้นเดือนสิงหาคม คุกบาสตีญย์ก็ถูกพังทะลาย ก้อนหินส่วนหนึ่งถูก นำไปใช้ในการสร้างสะพาน เดอ ลา คงคอร์ด ที่อยู่ระหว่างทำเนียบรัฐบาลและ ลานคงคอร์ดน่ะค่ะ
ส่วนสาเหตุการปฏิวัตินั้นมีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อย่างหนักในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ประเทศ ฝรั่ง เศสมีหนี้สินมากมาย การแก้ใขปัญหาทางเศรษฐกิจโดย การเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรม การยกเว้นภาษี ของสองชนชั้นแรกซึ่งมีฐานะร่ำรวยอยู่แล้ว ชนชั้นกลาง และชาวไร่ชาวนาถูกเอารัดเอาเปรียบ อยู่ตลอด เวลา เสนาบดีการคลังที่เสนอ นโยบายการเก็บภาษีที่เป็นธรรมเป็นที่พอใจของประชาชนก็ถูกปลดออก เพราะไปขัดผลประโยชน์ของพวกชนชั้นสูงคือสมัยนั้นฝรั่งเศสมีการแบ่งแยกเป็น 3 ชนชั้น ซึ่งมีชนชั้นแรกคือพวก ขุนนาง ชนชั้นที่ สองคือ พวกนักบวช ส่วนชนชั้นที่สาม ก็คือ ชนชั้นกลางและชาวไร่ชาวนาที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ สองชนชั้นแรกซึ่งเป็นส่วนน้อยกลับมีสิทธิพิเศษถือครองที่ดินส่วนมากของประเทศ และยังมีตัวแทนในสภา มากกว่า บวกกับ การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยของราชสำนักทำให้ เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมซึ่งทำให้ ประชาชน ไม่พอใจมากยิ่งขึ้น
หลังการปฏิวัติรัฐสภาได้ประกาศให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน โดยยึดหลักความคิดพื้นฐานของ นักปฏิวัติ ที่ว่า « เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ » และได้มีการประกาศสิทธิมนุษยชนและประชาชนด้วย
ในปี 1989 สมัยประธานาธิบดี François Mitterrand ได้มีการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของการปฏิวัติฝรั่งเศส ส่วนวันชาติฝรั่งเศสปัจจุบันก็จะมีการสวนสนามของทหารที่ ชอง เซลิเซ เหมือนทุกๆปี
ส่วน Colonne de juillet เสาสูงๆสีเขียวที่อยู่กลาง Place de la Bastille ซึ่งบนยอดสูงมีรูปปั้นบรอนซ์ของเทพ แห่งเสรีภาพที่กางปีกทำท่าจะบิน นั้นคนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นอนุสรณ์ของ การปฏิวัติฝรั่งเศส (1789) ที่มีการยึด คุกบาสตีย์ จริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะ แต่เป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงวัน « กรกฏา ทมิฬ »วันที่ 27-28-29 กรกฎาคม ปี ค.ศ.1830 (*1) ที่ฝูงชนลุกขึ้นมาต่อต้านพระเจ้าชาร์ลที่10 ที่ออก พระราชกำหนด 4 ข้อ« Les quatre Ordonnances de Saint-Cloud » ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการเผยแพร่ ข่าวสาร ยุบสภาผู้แทนราษฎร แก้ใขกฎหมายการเลือกตั้ง ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ผลการปะทะทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน พระเจ้าชาร์ลที่10 ก็ได้หนีออกจากปารีส (*1)ซึ่งตรงฐานยังได้บันทึกดังนี้ « À la gloire des citoyens français qui s'armèrent et combattirent pour la défense des libertés publiques dans les mémorables journées des 27, 28, 29 juillet 1830 ». Le fût de la colonne porte le nom des victimes des journées révolutionnaires de juillet 1830.
เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ปวงชนชาวฝรั่งเศสที่ได้ลุกขึ้นมาจับอาวุธต่อสู้เพื่อปกป้องเสรีภาพของปวงชนทั้งมวล ในวันที่ควรรำลึก 27-28-29 กรกฎาคม 1830 เสาต้นนี้จึงได้บันทึกชื่อของผู้ที่ได้เอาชีวิตมาทิ้งไว้ในวันปฏิวัติเดือน กรกฎาคม 1830
Credit by : Bloggang de P'lukkai

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ